การเลือกดูกระบอกคอริ่งคุณภาพที่ดี
ดอกคอริ่ง หรือกระบอกคอริ่ง ที่มีขายอยู่ในท้องตลาด(ในไทย)นั้น แต่ล่ะเจ้าจะมีราคาแตกต่างกันกันอยู่ แต่คุณสงสัยไหมครับว่า ราคาที่แตกต่างกันนั้นเป็นเพราะอะไร อะไรที่ทำให้ราคาดอกคอริ่งแต่ล่ะเจ้าไม่เท่ากัน ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผมจะบอกให้ทราบถึงวิธีการดูกระบอกคอริ่ง ว่ากระบอกคอริ่งที่(คุณภาพ)ดีนั้นดูตรงไหน และความแตกต่างของดอกคอริ่งที่ทำให้ราคาไม่เท่ากันนั้นในแต่ล่ะเจ้านั้นคืออะไร ?
ก่อนจะซื้อกระบอกคอริ่งสิ่งที่ต้องดูเป็นอย่างแรก คือ "เกลียวของเครื่องคอริ่ง" ของเราครับว่าตรงกัน(เหมือนกัน) กับ "เกลียวของดอกคอริ่ง" ไหม ?
ซึ่งถ้าซื้อทั้งเครื่องคอริ่งและกระบอกคอริ่งจากผู้ขายเจ้าเดียวกัน ก็จะไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าคุณมีเครื่องคอริ่งของเดิมอยู่แล้ว และต้องการซื้อ กระบอกคอริ่งเพิ่ม คุณต้องไปดูที่หัวเกลียวของเครื่องคอริ่งคุณครับแล้วไปแจ้งกับทางผู้ขาย หรือส่งรูปเกลียวให้เขาดู เขาจะได้เลือกแบบเกลียวกระบอกที่เหมือนกันได้ถูกครับ
อย่างที่สองคือ "จำนวนฟัน"
จำนวนฟันมีผลต่อราคากระบอกคอริ่งครับ ซึ่งจำนวนฟันที่เยอะกว่าราคาก็จะมากกว่า เช่น ดอกคอริ่ง 4" เจ้า A มีฟันอยู่ 5 ซี่ ส่วน ดอกคอริ่ง เจ้า B มีฟันอยู่ 7 ซี่ ดังนั้นราคาดอกเจ้า B จึงต้องมากกว่าเป็นต้นครับ และมันยังมีผลต่อการเจาะอีกด้วยคือ ฟันที่น้อยกว่าจะทำให้เจาะช้า(ขึ้นอยู่กับจำนวนฟัน) และฟันหมดไว ทำให้ได้จำนวนรูน้อยกว่าดอกคอริ่งที่ฟันเยอะกว่า
อย่างที่สามคือ "ความหนาของกระบอกคอริ่ง"
เป็นอีกหนึ่งจุดที่มีผลต่อราคากระบอกคอริ่ง บางคนอาจเรียกว่า เกรดของเหล็กกระบอก ซึ่งความหนานั้นจะมีผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานของดอกคอริ่ง เนื่องจากการเจาะแต่ล่ะครั้งผิวกระบอก(ด้านนอก และด้านใน) ถูกเสียดสีโดยคอนกรีตอยู่ตลอด จึงมีผลทำให้เหล็กบางลง กระบอกจะบี้ง่าย(เวลาเจาะเบียด เจาะไม่ตรง) ฉีกขาดง่าย(เวลาเจาะแล้วสะดุด ทนแรงบิดเครื่องไม่ไหวเพราะเหล็กบางเกิน) และผิดรูป(ไม่กลม หรือเวลาทำกระบอกร่วงลงพื้นแล้วกระบอกบุบ)
ดอกคอริ่งที่บางส่วนมากจะมีความหนาของเหล็กน้อยกว่า 2mm ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ได้ไม่เกิน ประมาณ 3 รอบ(ใช้จนฟันหมดไป 3 รอบ) โดยดอกคอริ่งที่มีความหนาของเหล็กประมาณ 2mm ขึ้นไปจะดีมาก จะใช้ได้นานและไม่ต้องซื้อกระบอกเปลี่ยนใหม่บ่อยๆ เติมเฉพาะฟันเอา
อย่างที่สี่คือ "ลักษณะการติดฟัน" ของกระบอกคอริ่ง
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่มีผลต่อราคากระบอกคอริ่ง เช่นกันครับ วิธีการติดฟันของกระบอกคอริ่งนั้น จะมีอยู่ 3 แบบใหญ่ๆด้วยกันคือ
- การเชื่อมติดฟันแบบ "Laser"
- การเชื่อมติดฟันแบบ "้High Frequency" หรือ เชื่อมด้วยความถี่
- ลวดเชื่อม
** ซึ่งบทความหน้าจะมาอธิบายในรายละเอียนตรงนี้ให้ลึกขึ้นไปอีกครับ
นอกจากนี้ยังมีข้อแตกต่างเล็กๆน้อยๆอีกที่ทำให้ราคากระบอกคอริ่งมีความแตกต่างกันไปในแต่ล่ะเจ้า เช่น ความยาวของกระบอก ความหนาของฟัน ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นซึ่งจะดีกว่าถ้าเลือกซื้อกระบอกเจ้าเดียวกันกับที่ซื้อเครื่องคอริ่ง จะทำให้ลดปัญหายุ่งยากต่างๆในการใช้งาน และความเข้ากันของอุปกรณ์ได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งเวลาแก้ไขปัญหาจะทำได้ง่าย สะดวก ในเรื่องอะไหล่ ข้อมูลลูกค้า หรือความเข้ากันของอุปกรณ์ด้วยครับ